เน็ต สัปดาห์ วัน ทู คอ ล

โปรเน็ต AIS รายสัปดาห์ เน็ต อาทิตย์ วัน ทู คอ ล ยอดฮิตปัจจุบัน รวมทุกแบบ เล่นเน็ตแบบไม่จำกัด โปรเสริมคุ้มเยอะแยะๆแบบรายสัปดาห์หรือราย 7 วัน ออมแล้วหลังจากนั้นก็คุ้ม ใช้ได้ทั้งยังเบอร์เพิ่มเงินและก็เอไอเอสทุกเดือน หากคุณกำลังดู เน็ต สัปดาห์ วัน ทู คอ ล นี้จากโทรศัพท์มือถือ อยากได้สมัครให้กดปุ่มหรือรหัสข้างล่างได้เลยจ๊าเน็ต ais รายสัปดาห์
AIS2Pro.com มีบัญชีทางการ LINE แล้ว!เป็นเพื่อนกันเถอะ คุณจะได้รับข่าวสารที่เป็นประโยชน์จำนวนมาก
สารบาญหน้า
1. สมัครโปรเน็ต AIS 12Call ไม่ลดสปิด
1.1 เน็ตไม่ลดสปิด รายวัน
1.2 เน็ตไม่ลดสปิด รายสัปดาห์
1.3 เน็ตไม่ลดสปิด รายเดือน
2. สมัครโปรเน็ต AIS 12Call เน็ตเต็มสปิด
2.1 เน็ตเต็มสปิด รายวัน
2.2 เน็ตเต็มสปิด รายสัปดาห์
2.3 เน็ตเต็มสปิด ทุกเดือน
3. สมัครโปรเน็ต AIS 12Call 5G
4. สมัครโปรเน็ต AIS 12Call อีกทั้งเน็ตทั้งยังโทรฟรี
5. โหลดโบรมั่นใจไว้สมัครคราวถัดไป

โปรเน็ต AIS รายสัปดาห์ โปรเน็ตวันทูคอล รายสัปดาห์ การใช้แรงงานอินเตอร์เน็ต โปรเสริม ของ เอไอเอส วันทูคอล ถ้าหากมีคำถามซักถามโดยตรงพอดิบพอดี 1175 ติดต่อพนักงานเอไอเอส วันทูคอล กด 0ข้อมูลเทคโนโลยี AIS 5Gปี 2022 หน่วยงานในโลกใหม่ปรับนิสัยกันยังไง เมื่อเทรนด์เทคโนโลยีใหม่กำลังมาปี 2022 องค์กรในโลกใหม่ปรับพฤติกรรมกันอย่างไร เมื่อเทรนด์เทคโนโลยีใหม่กำลังเดินทางมาตอนก่อนหน้าที่ผ่านมาไม่นานนี้ จะต้องยอมรับว่าเรื่องของ “Metaverse” เปลี่ยนเป็นประเด็นฮิตติดกระแสไปทุกวงสนทนา และในขณะเดียวกัน หน่วยงานธุรกิจไม่ว่าจะขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กก็จะเริ่มได้รับรู้คำใหม่ๆอย่าง Cybersecurity Mesh, Data Fabric มาพร้อม ในปี 2022 ที่กำลังจะก้าวเข้ามาในอีกไม่กี่ในอนาคตนี้ ก็จะมีเทรนด์เทคโนโลยีรวมทั้งสิ่งใหม่ดิจิทัลใหม่ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจหน่วยงานแล้วก็จะมีผลต่อเนื่องไปอีก 3 – 5 ปีข้างหน้า บริษัทเทคโนโลยีรวมถึงที่ปรึกษาขนาดใหญ่อย่าง Gartner ได้พินิจพิจารณาว่าเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ที่จะเข้ามา จะสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อภาคธุรกิจองค์กรอย่างแน่แท้ โดยจะแบ่งได้เป็น 3 มิติร่วมกัน เป็น

มิติที่ 1 Trust – สร้างการเชื่อมต่อทางดิจิทัลที่เชื่อถือได้นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไปการผลิตความน่านับถือในเชิงวิศวกรรมของข้อมูลจะแปลงเป็นเรื่องที่ควรต้อง ทุกหน่วยงานธุรกิจขนาดใหญ่จะให้ความเอาใจใส่กับประเด็นนี้กระทั่งกลายเป็นมาตรฐานใหม่ จำเป็นต้องปูพื้นฐานความเข้าใจกันก่อนว่าโลกธุรกิจในวันนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยพลังของ “Data” ก็จริง แต่ถ้าว่าข้อมูลต่างๆที่จะสามารถปรับใช้ให้มีคุณประโยชน์ในเชิงธุรกิจนั้นก็มีราดกระจัดกระจายออกไปในหลายแพลตฟอร์ม นั่นนำมาซึ่งการทำให้องค์กรธุรกิจไม่สามารถนำข้อมูลพวกนั้นมาทำให้มีคุณประโยชน์สูงสุดได้ และก็การที่จะทำให้ข้อมูลกลุ่มนี้มีสาระอย่างแท้จริงกับภาคธุรกิจ ก็จึงควรมีการ “รวมศูนย์ข้อมูล” ซึ่งไม่ใช่แค่การรวบรวมไว้ภายในจุดเดียว แม้ว่าควรจะมีการบูรณาการข้อมูลพวกนั้นให้กำเนิดความเกี่ยวข้องต่อเนื่องกันจนถึงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันด้วยยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้นเรื่อยๆตัวอย่างเช่นข้อมูลที่ได้มาจากคำค้นหาสินค้าและก็บริการของลูกค้าข้อมูลการซื้อผลิตภัณฑ์/บริการ ราคาของผลิตภัณฑ์/บริการรวมทั้งวิถีทางการจ่ายเงิน ที่ลูกค้าเลือกข้อมูลของพนักงานที่ทำหน้าที่ขายหรือคณะทำงานให้บริการลูกค้าข้อมูลของเครื่องจักรที่ผลิตผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีที่ประยุกต์ใช้สำหรับการดำเนินการข้อมูลทั้งหมดทั้งปวงนี้ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันเลย รวมทั้งชอบถูกจัดเก็บแยกพวกไปคนละแบบ เก็บคนละแพลตฟอร์ม แต่ในความเป็นจริงแล้วชุดข้อมูลแต่ละกลุ่มที่กล่าวมานี้ “มีความเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกัน” ถ้าเกิดมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยสำหรับการบูรณาการรวมศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ให้แปลงเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ก็จะทำให้หน่วยงานธุรกิจสามารถคาดคะเนหรือมองภาพใหญ่ของตลาดได้เลยทันที และไม่เพียงจะมองภาพใหญ่ของตลาดได้เท่านั้น ยังช่วยปรับให้หน่วยงานตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอุบายได้อย่างรวดเร็วทันต่อตลาด รวมทั้งลดขั้นตอนวิธีการทำงานที่ไม่สำคัญลงไปได้มากอีกด้วย

ในเวลาเดียวกันข้อมูลที่จะถูกเก็บและบูรณาการเข้ามา ก็ควรเป็นข้อมูลที่ปลอดภัยแน่ใจได้ว่าไม่มีช่องโหว่ให้มีการโจมตีทางไซเบอร์ได้ หน่วยงานธุรกิจชั้นแนวหน้าขณะนี้จึงให้ความใส่ใจกับการเลือกสถาปัตยกรรมทางเทคโนโลยี ที่มีความแข็งแกร่งด้าน Cybersecurity เพื่อข้อมูลที่เก็บมาประเมินผลนั้นปลอดภัยเชื่อมั่นได้อย่างแท้จริง เพราะเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลนั้นส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นและมั่นใจของหน่วยงาน กระทบต่อ แบรนด์ของบริษัท และทำให้ลูกค้าหมดความเชื่อมั่นศรัทธาในแบรนด์ได้เลยโน่นจึงทำให้จากนี้เป็นต้นไปหน่วยงานธุรกิจชั้นนำจะให้ความเอาใจใส่กับเรื่อง สถาปัตยกรรมไอทีมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อสร้างรากฐานด้านเทคโนโลยีสำหรับในการเชื่อมต่อทางดิจิทัลที่ยืดหยุ่นแล้วก็ไม่เป็นอันตราย อันจะก่อให้หน่วยงานสามารถเลือกลงทุนส่วนประกอบได้อย่างคุ้มและก็ช่วยทำให้คนซื้อหรือลูกค้าของหน่วยงานยังคงไว้เนื้อเชื่อใจในหน่วยงานอย่างที่เคยหรือเยอะขึ้นกว่าเดิม

มิติที่ 2 Change – เพิ่มความยืดหยุ่นให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงบริบทของโลกธุรกิจในยุคดิจิทัลมีแปลงอย่างสม่ำเสมอ การเคลื่อนไหวสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีแล้วก็โซลูชันต่างๆเพื่อระบบการประมวลผลมีความรวดเร็ว ไม่มีอันตรายและก็มีคุณภาพก็เลยแปลงเป็นเรื่องสำคัญที่จะจำเป็นต้องทำ ระบบต่างๆควรมีความยืดหยุ่นเยอะขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันนี้หลายๆองค์กรกำลังพบกับปัญหาการเลือกสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีรวมทั้งโซลูชันด้านไอทีที่ไม่เหมาะสมกับลักษณะธุรกิจของหน่วยงาน โน่นก็เลยเปลี่ยนเป็นอุปสรรคทำให้นักปรับปรุงแอปพลิเคชันหรือผู้ทำโปรแกรมต่างๆเกิดกฎระเบียบ ไม่อาจจะพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆตามความต้องการที่อยาก หรือสามารถทำเป็น แต่ว่าเวลาเกิดปัญหาก็เข้าไปแก้ไขแก้ไขปัญหาได้ยาก สิ่งกลุ่มนี้เป็นปัญหาที่ใหญ่ด้วยเหตุว่านำมาซึ่งการทำให้หน่วยงานไม่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการมาโต้ตอบความอยากของตลาดได้ ถึงแม้ทำเป็นก็จำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไม่ทันต่อเทรนด์ความจำเป็น สุดท้ายและจากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นการเสียโอกาสทางธุรกิจไปแม้กระนั้นนับจากนี้ไป หน่วยงานธุรกิจชั้นแนวหน้าจะหันมาให้ความเอาใจใส่กับการพินิจเลือกสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีและโซลูชันด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความยืดหยุ่นสูง ควรเป็นระบบที่สามารถที่จะแยกย่อยแล้วก็เอามาประกอบใหม่ได้ สามารถเลือกขนาดหรือปรับแต่งความสามารถการทำงานต่างๆได้เองตามสิ่งที่ต้องการ ความยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้หน่วยงานธุรกิจสามารถทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้มีความเข้าใจที่สูงขึ้นได้ การตัดสินใจ การควบคุมระบบเครื่องจักร การสุ่มเดาเลือกข้อมูลสินค้าบริการมานำเสนอกับลูกค้าก็จะดียิ่งขึ้น เมื่อหน่วยงานมีระบบระเบียบที่ยืดหยุ่นก็จะมีผลให้ทุกการตัดสินใจของหน่วยงานเป็นไปอย่างแม่นยำ คุ้ม ทันต่อเหตุการณ์แล้วก็มีความพร้อมต่อความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นอยู่กับเสมอ

มิติที่ 3 Growth – ขยายและเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปัจจัยเรื่องโควิด 19 ที่ทำให้หน่วยงานธุรกิจจะต้องตกลงปลงใจปรับลักษณะการทำงานแบบเกลื่อนกลาดกระจัดกระจาย ลดการกระจุก เพื่อลดการระบาดของโรค พนักงานในหน่วยงานจึงควรทำงานจากที่บ้าน (WFH) หรือทำงานแบบไฮบริด บวกกับปัจจัยในเรื่อง Digital Disruption ที่มีมาแรกเริ่ม สิ่งกลุ่มนี้แปลงเป็นเครื่องกระตุ้นให้หน่วยงานธุรกิจจำต้องตกลงปลงใจลงทุนในเรื่องเทคโนโลยีเยอะขึ้นเมื่อหน่วยงานธุรกิจได้ตกลงใจลงทุนนำเทคโนโลยีมาขจัดปัญหาปรากฏว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นไปในเชิงบวกต่อภาพรวมของธุรกิจ ในด้านของบุคลากรการทำงานที่ยืดหยุ่นขึ้น สามารถดำเนินการจากที่ไหนก็ได้เพราะหน่วยงานมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยรองรับแล้วก็อุดหนุนการทำงานจากนอกที่ทำงาน ทำให้แฮปปี้กับการทำงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆคุณภาพการทำงานก็เลยดียิ่งขึ้น ก็มีผลเชิงบวกต่อหน่วยงานในอีกด้านหนึ่งภายหลังองค์กรนำเทคโนโลยีไอทีเข้ามาประยุกต์กับกระบวนการทำธุรกิจ ก็กลายเป็นการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าเกิดความซาบซึ้งต่อแบรนด์และก็หน่วยงานเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น ธุรกิจแบรนด์แฟชั่นได้นำเทคโนโลยีโลกเสมอเหมือนจริงเข้ามาปรับใช้ให้ลูกค้าได้ได้โอกาสลองเสื้อผ้าผ่านเทคโนโลยีโลกเปรียบได้เสมือนดั่งจริง โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาเดินทางมาที่ร้านค้า หรือบริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินการลงทุน ก็นำเทคโนโลยีมาช่วยแนะนำที่ปรึกษาการลงทุนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ๆลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเกิดความสบายไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานใหญ่และไม่ควรต้องเสียเวล่ำเวลารอคอยคิวนัดพบ อย่างนี้ฯลฯ อันจะมองเห็นได้ว่าหน่วยงานธุรกิจจะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกลยุทธ์ธุรกิจแบบผสมผสานซึ่งก็คือใช้เทคโนโลยีเป็นตัวตรงกลาง ที่เชื่อมระหว่างแบรนด์ เจ้าหน้าที่ รวมทั้งลูกค้า เข้าพบกัน เป็นการประสานประสบการณ์ของบุคลากรและก็ประสบการณ์ของลูกค้า กระทั่งกำเนิดประสบการณ์ใหม่ที่นานาประการ สุดท้ายก็จะกลายเป็นข้อมูลชุดใหม่ที่หน่วยงานสามารถนำไปวิเคราะห์รวมทั้งประยุกต์คุณประโยชน์สำหรับการประดิษฐ์สินค้าแล้วก็บริการใหม่ๆได้

การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ผลดีในเชิงธุรกิจแบบงี้ หน่วยงานธุรกิจชั้นแนวหน้าหลายแห่งพิสูจน์แล้วว่า ล้วนมีผลในเชิงบวกต่อภาพรวมของธุรกิจ เทคโนโลยีช่วยเพิ่มความสามารถด้านดิจิทัลให้หน่วยงาน กระทั่งสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดได้อย่างทันต่อสถานการณ์ สามารถลดเงินทุนที่ไม่มีความสำคัญและช่วยให้หน่วยงานสร้างคุณประโยชน์สูงสุดให้กับธุรกิจได้ ทำให้หน่วยงานขยายตัวและเติบโตขึ้นอย่างก้าวโจนนี่คือ มิติทั้งยัง 3 ด้านที่จะเกิดขึ้นกับองค์กรธุรกิจในโลกใหม่ ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป อันเป็นผลมาจากความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังเกิดขึ้น ด้วยเหตุว่าโลกในวันนี้เปลี่ยนแปลงเร็วและหลังจากนั้นก็เทคโนโลยีดิจิทัลนี่เองที่เบื้องหน้าเบื้องหลังที่ขับทำให้โลกมองหมุนเร็วมากขึ้น ของใหม่ๆที่ล้ำหน้าเกิดขึ้นตลอด หากหน่วยงานธุรกิจต่างๆปรับนิสัยช้าไปหนึ่งก้าวก็จะก่อให้เสียโอกาสไปๆมาๆกมายในวันนี้หากองค์กรธุรกิจของคุณกำลังปรารถนาที่ปรึกษาและผู้ช่วยสำหรับเพื่อการเปลี่ยนหน่วยงานไปสู่ความเป็นดิจิทัล เพื่อทันต่อโลกรวมถึงเทรนด์ของผู้ซื้อในโลกใหม่ AIS Business แล้วก็ CSL ผู้ให้บริการชั้นแนวหน้าด้าน ICT Service แบบครบวงจร พร้อมสร้างเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ด้วยการรีบขับดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันหน่วยงานของคุณ ด้วยเทคโนโลยีและการให้บริการดิจิทัลที่มากมายพร้อม โดยคณะทำงานที่ไว้ใจได้ในความรู้ความเข้าใจอย่างมือโปร เพื่อหน่วยงานของคุณก้าวไปอย่างแน่วแน่รวมถึงปรับตัวได้ทันต่อเรื่องโลก

 



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.ais2pro.com/12callweek/

ความคิดเห็น